วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ


Learning Log
                        สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
                วันที่ 29 -30  เดือนตุลาคม พ.. 2558
        (ช่วงเช้า)
                วันที่ 29   เดือนตุลาคม พ.. 2558   ดิฉันได้เข้าอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ ในช่วงเช้ามีการเสวนาวิชาการงานวิจัย หัวข้อ Beyond Language Learning โดย ดร.สุจินต์ หนูแก้ว อาจารย์สุนทร บุญแก้ว และผศ..ดร.ประกาศิต สิทธิ์ธิติกุล เป็นผู้ดำเนินรายการ ทำให้ดิฉันได้รู้ว่าในศัตวรรษที่ 21 นั้น ครูต้องจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษอย่างไร
                ดร.สุจินต์ หนูแก้ว  ได้กล่าวไว้ว่า ผู้เรียนในศัตวรรษที่ 21 จะต้องมี 3R x 7Cได้แก่ Reading (อ่านออก), (W)Riting (เขียนได้)  และ (A) Rithmetics (คิดเลขเป็น) และ 7C ได้แก่ Critical thinking & problem solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา) Creativity & innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม) Cross-cultural understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์) Collaboration, teamwork & leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) Communications, information & media literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ) Computing & ICT literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)

Career & learning skills (ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้) ครูสามารถสอนให้ผู้เรียนมี 3R x 7Cได้โดยผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียน เช่น ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนโดยให้นักเรียนจัดกลุ่มคำศัพท์ที่ครูให้มาและออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน   นักเรียนอาจจะจัดกลุ่มตามชนิดของคำ ตามจำนวนคำ ตามหน้าที่ของคำ เป็นต้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เรียน ซึ่งสิ่งที่ใช้ในการจัดกลุ่ม คือ เกณฑ์ ว่าผู้เรียนจะใช้เกณฑ์อะไรในการจัดกลุ่ม ส่วนอาจารย์สุนทร บุญแก้ว กล่าวไว้ว่า การที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับแรงบันดาลใจ และทัศนคติ ดังนั้น ครูต้องปรับทัศนคติของผู้เรียนก่อน ให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการใช้ภาษาอังกฤษอย่างแท้จริง พานักเรียนไปเรียนรู้ภาษาที่ต่างประเทศ คือ ประเทศมาเลเซียและสิงค์โปร นอกจากจะทำให้นักเรียนเห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษอย่างแท้จริงแล้ว ยังได้ฝึกการใช้ภาษา เรียนรู้วัฒนธรรม และการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ทักษะการใช้ชีวิต เป็นต้น เห็นได้ว่า การจัดการเรียนการสอนโดยให้ผู้เรียนมี 3R x 7C และการจัดการเรียนการสอนจากประสบการณ์จริง เป็นวิธีจัดการเรียนการสอนที่ดีมาก ทำให้ดิฉันสามารถมาปรับใช้กับการเรียนของดิฉัน และการเป็นครูของดิฉันในอนาคตได้  อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆด้วย เช่น งบประมาณในการพาเด็กไปเรียนรู้ที่ต่างประเทศต้องใช้งบประมาณสูง เราอาจจะเปลี่ยนเป็น จัดแคมป์เล็กๆให้กับนักเรียนก่อน ในสถานที่ที่ไม่ไกลและใช้งบประมาณไม่มากนัก จัดการเรียนการสอนโดยคำนึงถึง 3R x 7C ให้มากที่สุด เป็นต้น
                จากการที่ดิฉันได้เข้าอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ ในวันที่ 29   เดือนตุลาคม พ.. 2558    ในช่วงเช้ามีการเสวนาวิชาการงานวิจัย หัวข้อ Beyond Language Learning โดย ดร.สุจินต์ หนูแก้ว อาจารย์สุนทร บุญแก้ว และผศ.ดร.ประกาศิต สิทธิ์ธิติกุล เป็นผู้ดำเนินรายการ ทำให้ดิฉันได้รู้ว่าในศัตวรรษที่ 21 นั้น ครูต้องจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยคำนึงถึง 3R x 7C และการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง


Learning Log
                        สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
                วันที่ 29 -30  เดือนตุลาคม พ.. 2558
           (ช่วงบ่าย)
                วันที่ 29   เดือนตุลาคม พ.. 2558   ดิฉันได้เข้าอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ ในช่วงบ่าย   ดิฉันได้ฟังการบรรยายโดย ผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติถาวร เกี่ยวกับ การเรียนคำศัพท์ผ่านการเล่นเกม การออกเสียงภาษาอังกฤษ การเรียนรู้วัฒนธรรมของกันและกัน   ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวมีประโยชน์มากสำหรับครูสอนภาษาอังกฤษที่ต้องฝึกฝนและทำความเข้าใจ
                 ผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ได้กล่าวไว้ว่า วิธีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมีหลากหลายวิธี เช่น การเรียนรู้คำศัพท์ผ่านการเล่นเกม วิธีการเล่นคือ ครูให้นักเรียนบอกคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีอยู่ในห้องเรียนตั้งแต่อักษร A-Z   และเกม crossword  เกมเหล่านี้ นอกจากจะให้ผู้เรียนได้เรียนรู้คำศัพท์แล้ว ทำให้ผู้เรียนได้ ฝึกกระบวนการคิด มีความสนุกสนาน ตื่นตัวที่จะเรียนรู้ นอกจากนี้ ดิฉันได้ฝึกการออกเสียงที่ถูกต้อง ทั้งเสียงพยัญชนะ สระเดี่ยวเสียงสั้น สระเดี่ยวเสียงยาว สระประสมสองเสียง และการเน้นเสียง ซึ่งครูสามารถจักกิจกรรมการเรียนการสอนการออกเสียงเหล่านี้ผ่านกิจกรรม เช่น Role Playing ครูอาจจะให้หัวข้อในการแสดงบทบาทสมมุติมา 1 หัวข้อ เช่น สถานการณ์ที่โรงพยาบาล นักเรียนไม่สบาย แล้วไปหาหมอนักเรียนจะพูดภาษาอังกฤษกับหมอว่าอย่างไรบ้าง ซึ่งนักเรียนจะต้องคิดประโยคภาษาอังกฤษขึ้นมาเอง โดยครูมีหน้าที่แก้ไขสิ่งที่นักเรียนพูดให้ถูกต้อง ทั้งด้านไวยากรณ์ การออกเสียง การเน้นเสียง ทำนองเสียงต่างๆ เป็นต้น
และในการฝึกออกเสียงนั้น ครูอาจจะให้ประโยคภาษาอังกฤษมา โดยเสียงนั้นขึ้นต้นประโยคทั้งประโยค และให้นักเรียนออกเสียง เช่น The thirty-three thieves thought that they thrilled the throne throughout Thursday. , I saw Susie sitting in a shoe shine shop. Where she sits she shines, and where she shines she sits. , I wish to wish the wish you wish to wishes, I won’t wish the wish you wish to wish. เป็นต้น  ครูอาจจะจัดในรูปของการแข่งขันก็ได้ เพื่อให้กระตุ้นนักเรียนให้ตื่นตัวในการเรียนมากขึ้น อาจจะมีรางวัลให้นักเรียนด้วยก็ได้ เพื่อเป็นการเสริมแรงให้กับนักเรียน  และนอกจากนี้ เราต้องรู้วัฒนรรม และการใช้ภาษา เราสามารถฝึกได้จากการดูหนังบ่อยๆ เช่น delicious นักเรียนไทยถูกสอนมาตั้งแต่เด็กๆว่าแปลว่า อร่อย แต่ในชีวิตจริง จะไม่ใช้คำว่า delicious เราจะใช้คำว่า beautiful , find, good เพราะ delicious จะใช้กับอาหารหรูหรา ราคาแพงมาก และในบางประเทศ จะเห็นว่า คำว่า ห้องน้ำ จะไม่ใช้ toilet, restroom แต่จะใช้คำว่า washroom เป็นต้น เห็นได้ว่า ครูผู้สอนต้องมีทั้งความรู้ในวิชาชีพ และความรู้รอบตัว เพื่อสามารถถ่ายทอดและสอนให้นักเรียนเป็นบุคคลที่มีความรู้และการใช้ชีวิต รู้ทันโลกภายนอกได้
                จากการที่ดิฉันได้เข้าอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ ในช่วงบ่าย   วันที่ 29   เดือนตุลาคม พ.. 2558   การบรรยายโดย ผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติถาวร เกี่ยวกับ การเรียนคำศัพท์ผ่านการเล่นเกม การออกเสียงภาษาอังกฤษ การเรียนรู้วัฒนธรรมของกันและกัน   มีประโยชน์มากสำหรับดิฉัน ได้ฝึกออกเสียง วิธีการสอนออกเสียงให้กับนักเรียนผ่านเกมและกิจกรรม ประสบการณ์ต่างๆของอาจารย์ และได้รู้ถึงวัฒนธรรม และการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง


                                                                         Learning Log
                        สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
   วันที่ 29 -30   เดือนตุลาคม พ.. 2558
(ช่วงเช้า)
                วันที่ 30   เดือนตุลาคม พ.. 2558   ดิฉันได้เข้าอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ ในช่วงเช้า ดิฉันได้ฟังการบรรยายโดย ผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ในหัวข้อ วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21 วิธีการสอนนี้มีหลายวิธี ได้แก่  วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล วิธีสอนแบบตรง วิธีสอนแบบฟัง-พูด วิธีสอนแบบเงียบ วิธีสอนตามแนวธรรมชาติ วิธีสอนแบบชักชวน วิธีสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง  การเรียนรู้แบบร่วมมือ การเรียนรู้แบบเน้นภาระงาน การเรียนรู้จากการทำโครงงาน แนวการสอนภาษาแบบกำหนดสถานการณ์ แนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร การสอนที่เน้นสาระการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ และครูในศตวรรษที่ 21
                ผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ได้กล่าวถึงวิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21 และครูในศตวรรษที่ 21 ไว้ว่า วิธีการสอนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษา ได้แก่  วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล คือ ไม่เน้นการฟังและการพูด แต่เน้นการเรียนไวยากรณ์แลการแปล  วิธีสอนแบบตรง คือ ให้ผู้เรียนคิดเป็นภาษาที่เรียน อยู่ในสถานการณ์จริง  วิธีสอนแบบฟัง-พูด คือ เรียนฟังและพูดจากภาษาที่ใช้ในชีวิตจริง ส่วนแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการปฏิสัมพันธ์ ได้แก่ วิธีสอนแบบเงียบ คือครูมีบทบาทให้น้อย ผู้เรียนมีบทบาทให้มาก  วิธีสอนตามแนวธรรมชาติ คือ สื่อสารกับเจ้าของภาษาโดยที่ยังคงให้ความสำคัญของความถูกต้องในการใช้ไวยากรณ์ โดยใช้วิธีตรวจแก้ไขไปเรื่อยๆ วิธีสอนแบบชักชวนคือ เรียนรู้ด้วยความสนุกสนานผ่านกิจกรรม เช่น การแสดงละคร วิธีสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางคือ ฝึกฝนบ่อยๆ ผ่านท่าทาง การเรียนรู้แบบร่วมมือคือ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ได้ทำงานร่วมกันเช่น คิดและคุยกัน การเรียนรู้แบบเน้นภาระงาน คือ ให้ภาระงานกับนักเรียน ภาระงานนั้นต้องส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้ภาษาด้วย ยากง่ายตามความเหมาะสม การเรียนรู้จากการทำโครงงานคือ ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง ได้ลงมือปฏิบัติเอง เช่น การจัดนิทรรศการ และแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษา ได้แก่
 แนวการสอนภาษาแบบกำหนดสถานการณ์คือ เน้นผู้เรียน ให้ผู้เรียนเลือกสถานการณ์ที่คิดว่าต้องประสบในการใช้ภาษาแล้วจึงเอาภาษาที่ใช้ในสถานการณ์นั้นมาจัดสอน เช่น At the airport  แนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารคือ จัดลำดับการเรียนรู้เป็นขั้นตอน คือ จากฟัง ไปสู่พูด การอ่าน การจับใจความสำคัญ นำเสนอในรูปแบบที่พบในสถานการณ์จริง การสอนที่เน้นสาระการเรียนรู้คือนำเนื้อหาวิชาต่างๆมาบูรณาการกับจุดมุ่งหมายของการสอนภาษาอังกฤษ  การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการคือเป็นการเชื่อมโยงความคิดรวบยอดจากวิชาและประสบการณ์ต่างๆเข้าด้วยกัน  และครูในศตวรรษที่ 21 ต้องสอนสิ่งที่สำคัญ แล้วฝึกให้นักเรียนสามารถไปต่อยอดองค์ความรู้เองได้  ครูปรับบทบาทเป็น Coach หรือ Facilitator เพื่อให้เด็กได้ฝึกปฏิบัติจริงและเกิดการเรียนรู้แบบ Active learning
                จากการที่ดิฉันได้เข้าอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ วันที่ 30   เดือนตุลาคม พ.. 2558   ในช่วงเช้า ดิฉันได้ฟังการบรรยายโดย ผศ.ดร.ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ในหัวข้อ วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21 แบบต่างๆ และครูในศตวรรษที่ 21 ทำให้ดิฉันรู้ว่าครูในศตวรรษที่ 21 ต้องสอนนักเรียนอย่างไรและมีลักษณะอย่างไร ดิฉันสามารถนำความรู้ที่ได้รับในครั้งนี้ไปใช้กับการสอนของดิฉันได้ในอนาคตและทำให้ดิฉันได้เตรียมความพร้อมว่า ครูในศตวรรษที่ 21 นั้นนอกจากจะเก่งเนื้อหา วิชาการแล้ว จะต้องสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดีได้ด้วย


                                                                                                  Learning Log
                                       สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
        วันที่ 29 -30  เดือนตุลาคม พ.. 2558
   (ช่วงบ่าย)
                วันที่ 30   เดือนตุลาคม พ.. 2558   ดิฉันได้เข้าอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ ในช่วงบ่าย ผศ.ดร.ศิตา  เยี่ยมขันติถาวร ได้นำเสนอเกมทั้งหมดสองเกม เป็นเกมที่ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ทักษะการคิด ทักษะการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น ดิฉันได้จดจำเกมเหล่านี้เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนของดิฉันในอนาคตได้ 
                ผศ.ดร.ศิตา  เยี่ยมขันติถาวร ได้นำเสนอเกมสองได้แก่ เกมที่หนึ่ง วิธีการเล่นคือ ครูจะสาธิตการเต้นและร้องเพลงให้นักเรียนดูก่อน จากนั้นครูให้นักเรียนลองฝึกเต้นและร้องตามครู เมื่อนักเรียนเต้นและร้องได้พอสมควรแล้ว ครูจะให้นักเรียนจับคู่กัน ซึ่งเพลงนี้ จะมีการเป่ายิ้งฉุบกัน คู่นั้นจะต้องไปหาอีกคู่หนึ่ง เพื่อเป่ายิ้งฉุบกันต่อ โดยผู้ชนะกับผู้ชนะเป่ายิ้งฉุบกัน ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อหาผู้ชนะเพียงคนเดียวเท่านั้น   เกมนี้ช่วยให้นักเรียนจดจำและเรียนรู้คำศัพท์ผ่านการเคลื่อนไหว เมื่อเกิดการเคลื่อนไหวจะทำให้นักเรียนสามารถจดจำและเรียนรู้ได้ดี ฝึกการแสดงออก  และเกมที่สอง วิธีการเล่น คือ เปิดเพลงภาษาอังกฤษ เมื่อเพลงหยุด ลูกบอลทั้งหมด 20 ลูกไปตกที่ใคร คนนั้นต้องออกมาหน้าชั้นเรียน เพื่อคิดประโยคภาษาอังกฤษขึ้นมาคนละ 1 ประโยค และต่อกันให้เป็นเรื่องเล่าหรือนิทาน 1 เรื่อง ในขณะที่นักเรียนบอกประโยคที่แต่งไว้นั้น ครูจะต้องแก้ไขการออกเสียง ไวยากรณ์ให้กับนักเรียนด้วย  หลังจากที่แต่งประโยค 20ประโยคและได้นิทานมา 1 เรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 5 คน ให้แต่ละกลุ่มวาดภาพนิทานที่ได้แต่งไปนั้น ภายในเวลาที่ครูกำหนดให้ และออกมานำเสนอหน้าชั้นโดยบอก conclusion ของนิทานเรื่องนี้เป็นภาษาอังกฤษ ในการนำเสนอนี้ครูจะมีการประกวดวาดภาพสวย และพูดถูกต้องและมีใจความสมบูรณ์ด้วย ประโยชน์ของเกมนี้คือ ฝึกการแต่งประโยค ฝึกออกเสียง ฝึกความกล้าแสดงออก ฝึกการทำงานเป็นทีม ฝึกการยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น ฝึกทำงานให้ตรงเวลา เห็นได้ว่าเกมมีประโยชน์มาก นอกจากจะช่วยให้นักเรียนได้ฝึกในด้านต่างๆแล้ว และช่วยให้นักเรียนมีความสุขในการเรียนรู้ด้วย เมื่อนักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข ทำให้นักเรียนมีทัศนะคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ มีความกระตือรือร้นที่จะเรียน และเกิดการเรียนรู้ระยะยาว เพราะผ่านการเรียนที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน มีจังหวะ และสนุกสนาน
                จากการที่ดิฉันได้เข้าอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ วันที่ 30   เดือนตุลาคม พ.. 2558   ในช่วงบ่าย  ผศ.ดร.ศิตา  เยี่ยมขันติถาวร ได้นำเสนอเกมทั้งหมดสองเกม ดิฉันได้รู้จักวิธีการเล่นเกมทั้งสองเกมและได้เล่นเกมนั้น ดิฉันรู้สึกประทับใจมากกับเกมที่อาจารย์นำมาให้เล่น ดิฉันคิดว่า ถ้าดิฉันนำเกมเหล่านี้ไปให้นักเรียนของดิฉันเล่น นักเรียนจะเกิดความชอบและสนุกสนานพร้อมได้รับประโยชน์ด้วย และดิฉันตั้งใจว่าจะคิดเกมและกิจกรรมใหม่ๆมาใช้กับนักเรียนของดิฉันในอนาคต เพื่อนักเรียนของดิฉันจะได้เรียนรู้อย่างมีความสุขและได้ฝึกทักษะต่างๆควบคู่กัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น