วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Learning Log (นอกห้องเรียน) ฝึกทักษะการอ่าน 29th September, 2015


Learning Log   (นอกห้องเรียน)
ฝึกทักษะการอ่าน
                                                                29th   September, 2015

                ความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ทำให้โลกมีวิวัฒนาการและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง มนุษย์สามารถติดต่อสื่อสารกันอย่างไร้พรมแดน ในการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษให้ความสำคัญในเรื่องทักษะการอ่าน เพราะการอ่านนำเราไปสู่ความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาที่อ่าน ถ้าไม่อ่านเราไม่สามารถเข้าใจสารนั้นได้ จะเห็นว่าในปัจจุบันนี้ การอ่านภาษาอังกฤษมีความจำเป็นมาก เพราะสื่อต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าเราไม่มีความสามารถในการอ่าน เราจะไม่เข้าใจเรื่องนั้นๆ ถ้าเราอ่านมาก ทำให้เราเป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ดีและเสริมสร้างบุคลิกภาพ ผ่านมากย่อมรอบรู้มาก มีข้อมูลต่างๆ สั่งสมไว้มาก เมื่อสนทนากับผู้อื่นย่อมมีความมั่นใจไม่ขัดเขินเพราะมีภูมิรู้ สามารถนำมาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนให้ชีวิตมีคุณค่า และมีระเบียบแบบแผนที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งในการฝึกครั้งนี้ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การอ่านของดิฉันจะพัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม และทำให้ดิฉันมีความรู้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น

                ในการฝึกอ่านครั้งนี้ดิฉันได้ฝึกอ่านเรื่องDavid Copperfield ตอน David Copperfield ’ s childhood เหตุผลที่เลือกฝึกอ่านเรื่องนี้ เพราะว่าสนใจเรื่อง David Copperfield ดิฉันได้ฝึกอ่านเรื่องนี้โดยใช้เวลา 1 สัปดาห์ ดิฉันได้ใช้เวลาว่างของดิฉันหลังจากเลิกเรียนอ่านเรื่องนี้ ในการอ่านแต่ละครั้งจะใช้วิธีการที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของดิฉันในขณะนั้น ถ้าอ่านตอนเย็นหลังจากเลิกเรียน จะอ่านออกเสียงดังการอ่านออกเสียง คือ การอ่านให้มีเสียงดัง เป็นการอ่านเพื่อส่งสาร เช่น อ่านให้ผู้อื่นฟัง อ่านเพื่อฝึกการอ่านออกเสียง อ่านข่าวทางสถานีวิทยุกระจายเสียง เป็นต้น  และถ้าอ่านตอนกลางคืนจะอ่านในใจ การอ่านในใจ คือการแปลความหมายของตัวอักษรออกมาเป็นความคิด ความเข้าใจ และนำความคิดความเข้าใจที่ได้นั้นไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งการอ่านทั้งสองแบบมีความแตกต่างกัน ทำให้ทราบว่าการอ่านแต่ละแบบเป็นอย่างไร และแบบไหนทำให้เข้าใจและเกิดประสิทธิภาพมากกว่ากัน การอ่านออกเสียงทำให้ดิฉันได้ฟังเสียงของตัวเองและรู้ได้อย่างชัดเจนว่า การอ่านของเราเป็นอย่างไร อ่านออกเสียงชัดเจนหรือไม่ ถูกต้องหรือไม่ ระดับเสียงอยู่ในระดับไหน และการอ่านในใจ ทำให้การอ่านมีความรวดเร็ว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าการอ่านของดิฉันเป็นอย่างไร อ่านถูกต้องหรือไม่ อ่านออกเสียงชัดเจนหรือไม่ มีการ stress ถูกตำแหน่งหรือไม่ เป็นต้น แต่การอ่านทั้งสองแบบนี้ทำให้ดิฉันเข้าใจเรื่องที่อ่าน ได้รับความรู้ทางด้านไวยากรณ์ ได้พัฒนาความคิด ฝึกจินตนาการ และฝึกการอ่านทั้งสองแบบ
                ในการฝึกแต่ละวันนั้น ดิฉันได้อ่านแบบ skimming ก่อน1รอบ จากนั้นอ่านออกเสียงและอ่านในใจขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้น  อ่านออกเสียง ในการอ่านออกเสียงนั้น ได้ฝึกเว้นวรรคตอนให้ถูกต้อง ใช้น้ำเสียงในการอ่านให้น่าฟัง อ่านออกเสียงพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ คำ ให้ถูกต้องตามอักขรวิธี อ่านด้วยอัตราเร็วที่เหมาะสม คือ อ่านไม่ช้าหรือเร็วจนฟังไม่ทัน และบางครั้งอ่านในใจ การอ่านในใจนั้นดิฉันต้องมีสมาธิแน่วแน่ในการอ่าน  พยายามเตือนใจตนเองไม่ให้คิดถึงเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่อ่าน ซึ่งการอ่านออกเสียงและการอ่านในใจขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้น  พบว่ามีคำศัพท์บางคำที่ดิฉันออกเสียงไม่ถูกต้อง และไม่รู้ความหมาย และชนิดของคำ แต่ดิฉันจะลองอ่านออกเสียง และเดาความหมายจากบริบท  และ affixes ดูก่อน จากนั้นไปเปิดดิกชันนารีออนไลน์เพื่อฟังเสียงคำศัพท์ ดูความหมาย และดูชนิดของคำ เช่น คำว่า moustache แปลว่า หนวด เป็นคำนาม , unconscious แปลว่า ซึ่งไม่ได้สติ เป็นคำคุณศัพท์ , frightened แปลว่า หวาดกลัว  เป็นคำกริยา เป็นต้น และในขณะที่อ่านนั้นพบสำนวนต่างๆมากมาย เช่น on the way แปลว่า ตามหนทางไปสู่ ,expecting a baby แปลว่า ตั้งท้อง เป็นต้น ซึ่งในขณะที่ฝึกนั้น พบปัญหาต่างๆมากมาย บางครั้งอ่านแล้ว ไม่เข้าใจ ดิฉันก็กลับไปอ่านใหม่อีกครั้ง บางครั้งอ่านไปก็เผลอหลับไป เพราะด้วยความเหนื่อยล้า แต่อย่างไรก็ตามปัญหาที่พบนั้น ทำให้ดิฉันได้ฝึกการอ่านเพิ่มมากขึ้น เพราะดิฉันได้กลับไปอ่านใหม่อีกครั้ง ทำให้ดิฉันมีความเข้าใจในเรื่องที่อ่านมากขึ้นกว่าเดิม และบางวันดิฉันได้นำประโยคที่ได้อ่านมาพูดกับเพื่อนในห้อง ทำให้ดิฉันได้ฝึกการพูดด้วย
                เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ David เขาเกิดในอังกฤษ พ่อของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เขาอยู่ในท้องแม่ของเขา ในครอบครัวของเขาคนที่รวยและมีชื่อเสียงที่สุดคือน้าของเขา หลังจากที่ได้แต่งงานกับเด็กหนุ่มนั้นน้าของเขาได้หย่ากับเด็กหนุ่มคนนั้น เนื่องจากต้องการเงิน และทุบตีเธอ น้าไม่เคยมาที่บ้านของ David เลย หลังจากที่รู้ข่าวว่าแม่ของ David ท้อง น้าจึงมาหา น้าได้ถามคนใช้ของแม่ของDavid ว่าเด็กในท้องน่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย คนรับใช้บอกว่าคิดว่าน่าจะเป็นผู้หญิง จากนั้นแม่ของ David ก็คลอด David ออกมา ปรากฏว่าเป็นผู้ชาย น้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เพราะน้าชอบเด็กผู้หญิง เมื่อ David เกิดมาชีวิตของเขามีแต่ความสุข ได้รับความรักจากแม่และพี่เลี้ยง แต่เมื่อเขาอายุ 8 ปี ความสุขของเขาค่อยเริ่มหายไป แม่ของเขามีความสนิทสนมกับผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อว่า Murdstone จากนั้นแม่ของ David และ Murdstone ได้ไปทำธุระกันสองอาทิตย์ และDavid ต้องอยู่กับพี่เลี้ยง พี่เลี้ยงจึงพา  David ไปเที่ยวบ้านเธอสองสัปดาห์ที่ทะเล David มีความสุขมากที่ได้ไปเที่ยวที่นั่นและร้องให้หนักมากเมื่อจะกลับบ้าน ในระหว่างทางกลับบ้านนั้น พี่เลี้ยงได้บอก David ว่า แม่ของ David ได้แต่งงานกับ Murdstone ทำให้ David ร้องให้หนักขึ้นอีกและไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องทำแบบนี้ด้วย เมื่อกลับมาถึงบ้าน David เข้าไปในห้องร้องให้หนักมาก และแม่ของ David ก็เข้ามาจับมือและนั่งใกล้ แต่ในขณะนั้นเอง Murdstone ก็ได้เข้ามาเห็นและโกรธแม่ของ David มาก  และ Murdstone ได้ข่มขู่และบังคับแม่ของฉันทุกอย่าง ถ้าไม่เชื่อฟังเขาเขาจะทุบตีและทำร้าย เขาควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในบ้าน และให้น้องสาวของเขาเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยตลอดไป Davidได้แต่สงสารแม่และหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้น
                เมื่อได้อ่านเรื่องนี้มีความรู้สึกว่า ชีวิตในวัยเด็กของ David มีทั้งความสุขและความทุกข์ เมื่อสุขก็สุขมาก และทุกข์ก็ทุกข์มาก ดิฉันคิดว่า การอ่านในครั้งนี้ ดิฉันได้ฝึกจินตนาการ ได้รับความรู้ทางด้านไวยากรณ์ ฝึกการอ่าน การแปล ฝึกใช้ความคิด การตีความหมายต่างๆ ได้รับข้อคิด รวมไปถึงได้รับความเพลิดเพลิน และเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเองมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับสภาพชีวิตสังคมในปัจจุบันนี้ ที่มีความเจริญก้าวหน้า มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ภาษาอังกฤษได้เข้ามามีบทบาททำให้คนเราทุกคนต้องอ่านภาษาอังกฤษได้อย่างเข้าใจ ฝึกอ่านเพื่อเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง เพื่อสามารถเข้าใจสารที่อ่าน เพราะการอ่านคือทักษะที่นำไปสู่ทักษะ และความรู้ ความเข้าใจอื่นๆได้ ทำให้เป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ดีและเสริมสร้างบุคลิกภาพ เมื่อผ่านการอ่านมากย่อมรอบรู้มาก มีข้อมูลต่างๆ สั่งสมไว้มาก เมื่อสนทนากับผู้อื่นย่อมมีความมั่นใจไม่ขัดเขินเพราะมีภูมิรู้ สามารถถ่ายทอดความรู้ให้คำแนะนำแก่ผู้อื่นในทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์ได้ ผู้รอบรู้จึงมักได้รับการยอมรับและเป็นที่เชื่อถือจากผู้อื่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น