วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Learning Log (นอกห้องเรียน) ฝึกทักษะการอ่าน 6th October, 2015


Learning Log   (นอกห้องเรียน)
ฝึกทักษะการอ่าน
                                                                   6th   October, 2015

                ในการเรียนรู้ภาษาทุกภาษา จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องฝึกฝนทักษะต่างๆเพื่อให้เกิดความชำนาญ ได้แก่ ฟัง พูด อ่าน เขียน และแปล ในการฝึกฝนทักษะต่างๆต้องใช้เวลา และการฝึกฝนซ้ำๆ จึงเกิดความชำนาญในทักษะนั้นได้ สำหรับดิฉัน ดิฉันคิดว่า การฝึกฝนทักษะการอ่าน ทำให้ภาษาอังกฤษของดิฉันพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะในขณะที่ดิฉันฝึกอ่านนั้น ดิฉันได้ฝึกพูด อ่าน เขียน แปล และได้เห็นการใช้ประโยคต่างๆ เนื่องด้วยหนังสือที่ดิฉันอ่านจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องที่พบเห็นได้จริง เรื่องราวในชีวิตประจำวัน สอดแทรกความสนุกสนาน ความน่าสนใจ ทำให้เมื่ออ่านแล้วไม่รู้สึกเบื่อหน่าย และยังสามารถนำประโยคต่างๆมาดัดแปลง พูดในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย เกิดเป็นความทรงจำระยะยาว เพราะเราสามารถนึกประโยค และจดจำคำศัพท์เหล่านั้นได้อย่างแม่นยำมากขึ้น สัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านเรื่อง  David Copperfield ตอน David Copperfields childhood เหตุผลที่เลือกฝึกอ่านเรื่องนี้ เพราะว่าสนใจเรื่อง David Copperfield จากการที่ดิฉันได้อ่านเรื่องนี้ทำให้ดิฉันอยากอ่านต่ออีก เพราะเมื่ออ่านแล้ว ทำให้ดิฉันรู้สึกผ่อนคลาย ไม่น่าเบื่อ เนื่องจากดิฉันอ่านได้ค่อนข้างไหลลื่น เพราะคำศัพท์ส่วนใหญ่ไม่ยาก และมองเห็นภาพชัดเจน ได้ฝึกจินตนาการ ได้รับความรู้ทางไวยากรณ์มากยิ่งขึ้น ได้ฝึกอ่านมากขึ้นเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยาวพอสมควร ทำให้ดิฉันต้องใช้เวลาในการอ่านมากพอสมควร ซึ่งในสัปดาห์นี้ดิฉันตั้งใจและมีความมุ่งมั่นว่า จะอ่านเรื่อง David Copperfield ต่อ โดยอ่านตอน David is sent away to school. , David the orphan. ,  David and his aunt. ซึ่งแต่ละตอนนั้นมีความยาวพอสมควร แต่ดิฉันได้ใช้เวลาว่างของดิฉันและได้อ่านมันในวันหยุด ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม พ..2558 ถึงวันที่ 12 ตุลาคม พ..2558 ดิฉันหวังว่าการฝึกในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จและฝึกฝนได้อย่างสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้   

                เมื่อตอนที่ผ่านมาคือ David Copperfields childhood เป็นตอนที่ David พบเจอทั้งเรื่องที่ดี และไม่ดี มีทั้งสุขและทุกข์ แต่ทุกข์จะมากกว่าสุข ความสุขของ David คือ ได้ไปเที่ยวที่บ้านของ Peggotty และได้เจอกับ Emily ได้ชอบเธอแบบประสาเด็กไร้เดียงสา ได้เล่นกันอย่างมีความสุข และเรื่องที่เศร้ามากที่สุดคือ พ่อของ David เสียตั้งแต่เขายังอยู่ในท้องแม่  และแม่ได้แต่งงานใหม่กับ Miss Murdstone ซึ่งเขาเป็นผู้ชายที่ไม่ดี ได้เข้ามาบงการในบ้านของDavid และให้น้องสาวของเขามาอยู่ที่บ้านด้วยตลอดไป ในสัปดาห์นี้ ดิฉันได้เริ่มอ่านตอน David is sent away to school. ในวันที่ 6 เดือนตุลาคม พ..2558 ถึง 7 เดือนตุลาคม พ..2558 ในการฝึกครั้งนี้ คือ ดิฉันจะอ่านออกเสียง และบางครั้งก็อ่านในใจ พบว่า ในการอ่านมีคำศัพท์บางคำทีดิฉันไม่รู้ความหมายและออกเสียงไม่ถูกต้อง ดิฉันจะลองออกเสียงและหัดแปลดูก่อน จากนั้นไปเปิดดิกชันนารีออนไลน์เพื่อดูความหมายและฟังการออกเสียง เช่น คำว่า miserable แปลว่า ทุกข์ยาก เป็น adjective , whispering แปลว่า การกระซิบเสียงเบา เป็น noun , guilty แปลว่า ซึ่งมีความผิด , violently เป็น adverb แปลว่า อย่างรุนแรง, surrounded แปลว่า ล้อมรอบ เป็น transitive verb เป็นต้น ซึ่งในการฝึกอ่านนี้ มีคำกริยามากมายที่ลงท้ายด้วย ed  ซึ่งดิฉันยังออกเสียงไม่ถูกต้อง ดังนั้นดิฉันจึงไปค้นคว้า ดังนี้ สรุป ed อ่านได้สามเสียง
1. ถ้า ed ตามหลังเสียง /t/ กับ /d/ ให้อ่านเสียง อิด
2. ถ้า ed ตามหลังเสียงไม่ก้อง เช่น พวก /f/, /p/, /k/, /s/ ให้อ่านเสียง /t/
3. ถ้า ed ตามหลังเสียงก้อง เช่น /b/, /g/,/v/, /m/, /n/, /r/, /l/ ให้อ่านเสียง /d/
ในตอนนี้ ชื่อตอน  David ถูกส่งให้ไปเรียนเมืองนอก เนื้อเรื่องโดยสรุปคือ David เมื่อพ่อเลี้ยงของ David เข้ามาทำให้ชีวิตของเขาไม่มีความสุข เมื่อแม่ของ David สอนหนังสือให้เขา เขาสามารถตอบคำถามได้และเรียนรุ้อย่างมีความสุข แต่เมื่อพ่อเลี้ยงของเขาเข้ามาสอนด้วย ทำให้เขารู้สึกกลัวและเกร็งมาก จนตอบคำถามไม่ได้ และพ่อเลี้ยงก็ได้ตีเขา โดยที่แม่ของเขาช่วยอะไรเขาไม่ได้ เพราะพ่อเลี้ยงของเขาเป็นคนบงการและบังคับทุกสิ่งทุกอย่าง และพ่อเลี้ยงของเขาได้ขังDavid ไว้ในห้องนอนของเขาห้าวันแต่ดูเหมือนกับหนึ่งปี เขาได้กินเพียงขนมปังและนมเท่านั้นโดยพ่อเลี้ยงของเขาเอามาให้ Poggetty และแม่ของเขารู้สึกสงสารเขามากและในคืนที่ห้านั้น David ได้ยินเสียงกระซิบของ Poggetty ที่รูกุญแจ บอกว่าเขาจะส่งDavid ไปต่างประเทศพรุ่งนี้ ในวันรุ่งเช้า David ได้ออกจากบ้านเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ Poggetty และแม่ของDavid ได้ร้องไห้อย่างหนัก เมื่อ David ไปถึงโรงเรียนนั้นโรงเรียนของเขาดูสกปรก มีตึกเก่าๆ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่พ่อเลี้ยงของเขาเลือกไว้ให้ เขาอยู่ที่นั่นมากกว่าสามเดือน และเขาได้กลับบ้าน ได้เห็นแม่มีลูกใหม่ แม่ของเขาดูโทรมมากกว่าเดิมและหลังจากนั้นฉันก็ได้กลับมาที่โรงเรียนอีกครั้งหนึ่ง
                วันที่ 6 เดือนตุลาคม พ..2558 ถึง 7 เดือนตุลาคม พ..2558 ดิฉันได้ฝึกเรื่อง David Copperfield .ตอน David is sent away to school. ฉันมีความรู้สึกว่าชีวิตของ David น่าสงสารมาก จากที่อ่านได้มีการบรรยายถึงความรู้สึกของ David , Poggetty ,แม่ของ David ได้อย่างน่าสงสาร ซึ่งในวันต่อมาคือวันที่ 8 เดือนตุลาคม พ..2558 ถึง 9 เดือนตุลาคม พ..2558 ดิฉันได้อ่านตอน David the orphan ซึ่งในการฝึกนั้น ดิฉันได้อ่านออกเสียงและอ่านในใจสลับกันไป ในขณะที่อ่านพบว่า เมื่ออ่านไปแล้ว บางครั้งก็ไม่เข้าใจ ดิฉันต้องกลับมาอ่านใหม่อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีคำศัพท์ที่ดิฉันไม่รู้มากมาย ทำให้การอ่านของดิฉันอ่านไม่ค่อยเข้าใจ ดิฉันจึงอ่านไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนและมีการจดบันทึกลงในสมุดด้วยเพื่อสามารถกลับมาอ่านใหม่ได้อีกครั้ง และนอกจากนี้ ในขณะที่อ่านนั้น สามารถจินตนาการได้ ทำให้มีความสนุกสนาน และมองเห็นภาพในการอ่านมากขึ้น ในตอนนี้จะพูดถึงชีวิตของ David ที่น่าสงสารเช่นเดิม  ในตอนนั้น David อยู่ที่โรงเรียน เขาได้รับจดหมายจาก Poggetty ว่า แม่ของเขาได้เสียชีวิตแล้ว เขาเสียใจมาก ร้องให้ครวญครางออกมาอย่างหนัก และเขาได้กลับไปที่บ้าน เพื่อไปกราบศพแม่ของเขา และน้องคนเล็กของเขาก็ได้เสียชีวิตด้วย Poggetty บอกว่า แม่ของเขาป่วยหนักมานานแล้ว ตั้งแต่น้องของเขาเกิด และอาการเริ่มทรุดลงเรื่อยๆ ซึ่ง David ได้กลับไปถึงบ้านนั้น พ่อเลี้ยงของเขาและน้องสาวของพ่อเลี้ยงทำไม่สนใจ และเหมือนกับว่า David ไม่ได้อยู่ในบ้าน เมื่อพิธีฝังศพเสร็จสิ้นลง พ่อเลี้ยงของ David ไม่สนใจ David และทำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่ในบ้าน และขับไล่ Poggetty ออกจากบ้าน เขาบอกว่าเขาต้องการคนรับใช้คนใหม่ เขาไม่ต้องการ Poggetty อีกต่อไป เมื่อรุ่งเช้าต่อมา Barkis คือพี่ชายของเธอได้มารับเธอและ David ไปที่ Yarmouth ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Poggetty  David ได้พบกับครอบครัวของ Poggetty รวมไปถึง Emily ซึ่งเธอดูสวยขึ้นมาก ฉันรักเธอไม่เปลี่ยนแปลง และเมื่อDavid ได้ไปอยู่ที่บ้านของ Poggetty ได้ไม่นาน ก็กลับมาที่บ้านของเขา เพื่อที่เขาจะไปเรียน แต่พ่อเลี้ยงของเขาบอกว่าจะไม่ส่งเขาเรียนอีกแล้ว เพราะด้วยโรงเรียนที่เขาเรียนมีราคาแพงมาก พวกเขาได้จัดเตรียมเสื้อผ้า เครื่องใช้ต่างๆให้ David เพื่อไปทำงานที่ลอนดอน งานที่เขาทำคือ ล้างแก้วไวน์ ในขณะนั้น David อายุเพียง 10 ปี เขาเพียงคนเดียวที่เป็นเด็ก  เขาทำงานหนักมากและไม่มีความสุขเลย ต่อมา พ่อเลี้ยงของเขาได้ออกตามหาเขาที่ลอนดอนและได้พบกับผู้จัดการร้านที่เขาทำงาน และเรียก David ให้มาพบผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นคือ Mr. Micawber ซึ่งเขาได้เสนอให้ David อาศัยอยู่ที่บ้านของเขา บ้านของเขาเต็มไปด้วยความสกปรก รุงรัง มีกลิ่นเหม็น ซึ่งในแต่ละวัน David จะทานเพียงขนมปัง และชีสเท่านั้น เมื่อก่อนบ้านของ Mr. Micawberมีฐานะ แต่ด้วยที่เขาบริหารเงินไม่เป็น เขาจึงติดหนี้จำนวนมาก และเขาได้สอนให้ David รู้จักเก็บเงินและบริหารเงินให้ดี อีกไม่นาน ต่อมา Mr. Micawberได้ออกจากลอนดอนเพื่อไปอยู่ที่อื่น ทำให้ David เศร้าเสียใจมาก และเขาตัดสินใจเป็นเวลานานเพื่อที่จะหางานทำใหม่ เขาต้องการให้ชีวิตของเขาดีขึ้นกว่าเดิม เขาคิดว่าเขาจะออกเดินทางตามหาน้าของเขา เพื่อไปอาศัยอยู่กับน้า
                ในวันที่ 8 เดือนตุลาคม พ..2558 ถึง 9 เดือนตุลาคม พ..2558 ดิฉันได้อ่านตอน David the orphan ทำให้ดิฉันรู้ว่าชีวิตของ David น่าสงสารมาก และในวันที่ 10 เดือนตุลาคม พ..2558 ถึง 12 เดือนตุลาคม พ..2558 ดิฉันได้อ่านตอน David and his aunt. ในการฝึกครั้งนี้ดิฉันได้ฝึกอ่าน โดยอ่านแบบ skimming 1 รอบ พบว่ามีคำศัพท์บางคำที่ไม่รู้ ดิฉันลองฝึกแปลความหมายและฝึกออกเสียง เช่น pavement แปลว่าทางเดิน บาทวิถี เป็น noun , approve แปลว่า เห็นด้วย ยอมรับ เป็น transitive verb , begger แปลว่า คนขอทาน เป็น noun จะเห็นได้ว่าคำศัพท์บางคำดิฉันมีความคุ้นเคยแต่เมื่อไม่ได้พบเจอและนำมาใช้ ทำให้ดิฉันลืม หลังจากที่ได้อ่านแบบ skimming แล้ว จากนั้น ดิฉันได้อ่านออกเสียงและบางครั้งก็อ่านในใจสลับกันไป  เรื่องนี้พูดถึงตอนที่ David ไปอยู่กับน้าสาว เขาได้ออกเดินทางจาก London เพื่อไปหาน้าสาวของเขา ในระหว่างทาง เขาโดนขโมยเงินไปจนหมด เขาไม่มีอาหารที่จะกิน เขาได้เดินทางมาหกวันแล้ว และเขาได้นอนหลับพักผ่อนลงที่ใต้ต้นไม้ เขาได้ขายเสื้อแจ็กเก็ตของเขาเพื่อแลกกับอาหาร จากนั้นเขาได้เดินทางต่อไป และถามผู้คนแถวนั้นไม่มีใครรู้จักบ้านน้าของเขาและเขาได้เดินต่อไป พบผู้ชายคนหนึ่งได้บอกทางไปบ้านหน้าของเขาให้เขาทราบ เมือเขาไปถึงหน้าบ้านหน้าของเขา น้าของเขาจำเขาไม่ได้และบอกให้เขาออกไป และ David ก็ได้บอกว่าเขาคือหลานของเธอ น้าของDavid ได้ร้องไห้ และนั่งลงที่หญ้า และให้ David เข้าไปในบ้าน  David ได้เล่าชีวิตที่ผ่านมาให้น้าฟัง เมื่อน้าได้ฟังก็รู้สึกสงสาร David มาก และนำเขาไปนอนบนเตียง ห่มผ้า และให้ David ทานยา และรับประทานอาหารที่แสนอร่อยมาก เมื่อถึงตอนเช้าDavid ได้ตื่นขึ้นมารับประทานอาหารเช้า และต่อมา พ่อเลี้ยงของ David ได้มาที่บ้าน และบอกกับน้าว่า เขาเป็นเด็กที่ไม่ดี และพ่อเลี้ยงของเขาต้องการที่จะนำเขากลับไป แต่ David  ขอร้องน้าของเขา และบอกว่าไม่อยากไป เพราะพ่อเลี้ยงของเขาเป็นคนไม่ดี ไม่ใจดี ชอบทำร้ายเขา น้าของ David เข้าใจ David ดีและมองเห็นทุกอย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจน จึงบอกให้พ่อเลี้ยงของเขากลับไปและเธอจะดูแลและปรับเปลี่ยนนิสัยของ David เอง
David ขอบคุณคุณน้าของเขาและร้องไห้ออกมา  David มีความสุขมากที่ได้อยู่ที่นี่ หลังจากนั้นต่อมาน้าของเขา ได้ส่งเขาไปเรียนที่ Canterbury ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านน้าของเขา เขาได้เรียนที่นั่นอย่างมีความสุขมาก โรงเรียนของเขาใหญ่มาก เขามีเพื่อนผู้ชายทั้งหมด ครูของเขาใจดี ไม่ลงโทษเขา เปรียบเสมือนชีวิตใหม่สำหรับเขา เขาได้ศึกษาที่นั้นจบจบการศึกษาเมื่ออายุ 17 ปี เมื่อได้อ่านตอนนี้จบ ทำให้ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจในตัวของ David ชีวิตของเขาพบเจอกับความทุกข์ทรมาน ความหว้าเหว่ อ้างว้าง เศร้า เสียใจ แต่เขาก็ไม่เคยบ่นและย่อท้อกับอุปสรรค์ต่างๆที่เข้ามาในชีวิต และความอดทนของเขา ทำให้เขาได้พบกับน้าของเขา และชีวิตของเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆและเขาก็ตั้งใจเรียน และประสบความสำเร็จในที่สุด
                เราจะเห็นว่าทุกๆภาษานั้น ประกอบด้วยทักษะต่างๆ เช่น ฟัง พูด อ่าน เขียน และแปล ในภาษาอังกฤษก็เช่นเดียวกันประกอบด้วยทักษะเหล่านี้ จำเป็นอย่างมากที่เราต้องฝึกฝนทักษะเหล่านี้ โดยการฝึกซ้ำๆเพื่อให้เกิดความชำนาญในทักษะเหล่านั้น จากการที่ได้อ่านเรื่อง  David Copperfield. ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม พ..2558 ถึงวันที่ 12 ตุลาคม พ..2558 ทั้งหมด 3 ตอนคือ David is sent away to school. , David the orphan. ,  David and his aunt.ทำให้ทักษะการอ่านของดิฉันพัฒนามากยิ่งขึ้น ดิฉันได้อ่านออกเสียง อ่านในใจ ทำให้ดิฉันมีความคล่องแคล่วในการอ่านมากขึ้น และมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ดิฉันยังได้เรียนรู้คำศัพท์ต่างๆและได้ฝึกออกเสียง ได้รู้ว่า คำศัพท์คำนั้นอ่านออกเสียงว่าอย่างไร และได้เรียนรู้ประโยคต่างๆ ฝึกการพูด การอ่าน การเขียน และการแปล จากการที่ดิฉันได้อ่านและแปลความหมายพบว่าเรื่องราวชีวิตของ David น่าสงสารมาก และชีวิตของเขาได้ดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาได้ไปอยู่กับน้าของเขา เมื่ออ่านทำให้ดิฉันสามารถจินตนาการความเจ็บปวด ความเศร้าเสียใจต่างๆ ลักษณะของตัวละครแต่ละคน และได้เห็นการบรรยายถึงสถานที่ต่างๆในเนื้อเรื่อง เช่น โรงเรียนที่ David เรียน  เป็นต้น  เราจะเห็นว่าการอ่านเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง ทำให้เราเป็นคนรอบรู้ มีความรู้มากขึ้น สำหรับดิฉันแล้ว การฝึกทักษะการอ่านทำให้ภาษาอังกฤษของดิฉันพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะหนังสือที่ดิฉันอ่านนั้นมีคำศัพท์ที่ไม่ยากจนเกินไป อ่านแล้วมีความสนุกสนาน ทำให้ดิฉันอ่านแล้วมีความสุขและสามารถอ่านได้นาน ไม่เบื่อหน่าย และเป็นความทรงจำระยะยาว เพราะมาจากความตั้งใจและความเข้าใจ 
                 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น