Learning Log ฝึกทักษะการอ่าน (นอกห้องเรียน)
15 th
September, 2015
ภาษาเป็นเครื่องมือที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสื่อสาร
รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้และใช้ในการสื่อความหมายและความเข้าใจซึ่งกันและกัน
ในปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีบทบาทอย่างกว้างขวางในการติดต่อสื่อสารในสังคมโลก
และหากเราเข้าไปใช้อินเทอร์เน็ตก็จะพบว่า
ข้อมูลข่าวสารในเว็บเพจส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษมากที่สุดรวมทั้งประเทศทั่วโลกมีจำนวนประเทศถึง
53 ประเทศใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ (Martin Ebbertz,2002) สำหรับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
เมื่อเปรียบเทียบความสำคัญของทักษะทางภาษาทั้ง 5 ทักษะ คือ
ฟัง พูด อ่าน เขียน และแปล พบว่าทักษะทั้ง 5 มีความสำคัญมาก
โดยเฉพาะทักษะการอ่าน ที่เราทุกคนอาจมองข้ามไปว่า ทักษะนี้
มีความสำคัญน้อยเมื่อเทียบกับทักษะอื่นๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทักษะการอ่าน
มีความสำคัญมากเพราะทักษะนี้เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการแสวงหาความรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาทุกระดับ
เนื่องจากการเรียนวิชาต่างๆทั้งในและนอกห้องเรียนต้องใช้การอ่านเป็นสื่อในการเรียนรู้
โดยเฉพาะในการเรียนภาษาอังกฤษ ทักษะการอ่านเป็นทักษะที่สำคัญมากที่สุด
เพราะผู้เรียนมีโอกาสใช้ทักษะ ฟัง พูด และเขียนน้อยกว่าทักษะการอ่าน
ซึ่งในสัปดาห์นี้ ดิฉันตั้งใจและมุ่งมั่นในการฝึกอ่านภาษาอังกฤษ ตั้งแต่วันที่ 15
กันยายน พ.ศ.2558 ถึงวันที่
21 กันยายน พ.ศ.2558 ดังนั้นการอ่านจึงมีเป้าหมายสำคัญในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เพื่อผู้เรียนได้ใช้เป็นเครื่องมือนำไปสู่การแสวงหาความรู้ทั้งปวง
การอ่าน หมายถึง
การแปลความหมายของตัวอักษรที่อ่านออกมาเป็นความรู้ความคิด
และเกิดความเข้าใจเรื่องราวที่อ่านตรงกับเรื่อราวที่ผู้เขียนเขียน ผู้อ่านสามารถนำความรู้ ความคิด
หรือสาระจากเรื่องราวที่อ่านไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ การอ่านจึงมีความสำคัญ เพราะการอ่านเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้
โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน
จำเป็นต้องอ่านหนังสือเพื่อการศึกษาหาความรู้ด้านต่าง ๆ เป็นเครื่องมือช่วยให้ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ
เพราะสามารถนำความรู้ที่ได้จากการอ่านไปพัฒนางานของตนได้ เป็นเครื่องมือสืบทอดทางวัฒนธรรมของคนรุ่นต่อ
ๆ ไป นอกจากนี้การอ่านเป็นวิธีการส่งเสริมให้คนมีความคิดอ่านและฉลาดรอบรู้
เพราะประสบการณ์ที่ได้จากการอ่านเมื่อเก็บสะสมเพิ่มพูนนานวันเข้า
ก็จะทำให้เกิดความคิด เกิดสติปัญญา เป็นคนฉลาดรอบรู้ได
การอ่านเป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเพลิดเพลินบันเทิงใจ
เป็นวิธีหนึ่งในการแสวงหาความสุขให้กับตนเองที่ง่ายที่สุด
และได้ประโยชน์คุ้มค่าที่สุด และที่สำคัญคือการอ่านเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ทำให้เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งด้านจิตใจและบุคลิกภาพ
เพราะเมื่ออ่านมากย่อมรู้มาก สามารถนำความรู้ไปใช่ในการดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข
ทั้งนี้ การอ่านจะดำเนินไปได้ดีเพียงใดขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ
และองค์ประกอบที่อยู่ภายในร่างกาย การอ่านท่ามกลางบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
จะนำมาซึ่งประสิทธิและประสิทธิผลในการอ่าน ทั้งนี้ควรคำนึงถึง การจัดสถานที่และสิ่งแวดล้อม
สถานที่ที่เหมาะกับการอ่านควรมีความเงียบสงบ ตัดสิ่งต่างๆ ที่รบกวนสมาธิออกไป
มีอุณหภูมิและแสงสว่างที่เหมาะสม การจัดท่าของการอ่าน การจัดอุปกรณ์ช่วยในการอ่าน
การอ่านอาจมีอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น กระดาษสำหรับบันทึกดินสอ ปากกา ดินสอสี การจัดเวลาที่เหมาะสม
การเตรียมตนเอง ได้แก่ การทำจิตใจให้แจ่มใส มีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจ
และมีสมาธิในการอ่าน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ มีสุขภาพสายตาที่ดี ตัดปัญหารบกวนจิตใจให้หมด
การแบ่งเวลาให้ถูกต้อง และมีระเบียบวินัยในชีวิตโดยให้เวลาแต่ละวันฝึกอ่านหนังสือ
และพยายามฝึกทักษะใหม่ๆ ในการอ่าน เช่น ทักษะการอ่านเร็วอย่างเข้าใจ เป็นต้น และนอกจากนี้
การอ่านจะมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์นั้น เราต้องมีเทคนิคในการอ่าน นั่นคือ
ต้องรู้ว่า อ่านเพื่ออะไร
ถ้าเราอ่านเพื่อต้องการเข้าใจเนื้อหาโดยรวมว่าเกี่ยวกับอะไร ควรอ่านแบบ skimming และถ้าต้องการหาข้อมูลเฉพาะเจาะจงไปเลย ควรอ่านแบบ scanning และถ้าเราไม่รู้คำศัพท์คำนั้น เราสามารถเดาคำศัพท์คำนั้นได้จากบริบท ดังนั้นวิธีการเหล่านี้มีประโยชน์มากในการอ่าน
ดิฉันเห็นแล้วว่า
ทักษะการอ่านเป็นทักษะที่มีความสำคัญและจำเป็นมาก และดิฉันได้ไปค้นคว้าข้อมูล
พบว่าการอ่านให้ประสบความสำเร็จนั้นเราต้องปฏิบัติอย่างไร ดิฉันได้เริ่มอ่านเมื่อวันที่
15 กันยายน พ.ศ. 2558 ถึง วันที่ 16
กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้เลือกบทความภาษาอังกฤษ 1 เรื่องที่ดิฉันสนใจ คือ เรื่อง Loy Krathong Festival จาก http://english-jojosung.blogspot.com/2011/01/blog-post_5674.html ก่อน ในการอ่านบทความเรื่อง
Loy
Krathong Festival ก่อนอื่น ดิฉันจะอ่านแบบ skimming ก่อนเพื่อเก็บประเด็นหรือใจความสำคัญ
และอ่านเพื่อเก็บ รายละเอียดที่สำคัญบางอย่าง ทำให้ดิฉันเห็นเห็นใจความสำคัญของบทอ่าน
มองเห็นภาพรวมแบบคร่าวๆ ว่าบทอ่านนี้เกี่ยวกับอะไร จากนั้น
อ่านเพื่อแปลความหมาย และพบว่ามีคำศัพท์บางคำที่ไม่เข้าใจ
แต่ดิฉันจะไม่เปิดดิกชั่นนารี เพราะต้องการรู้ว่าดิฉันมีความรู้
และสามารถอ่านและแปลความหมายได้มากน้อยแค่ไหน
เมื่อพบศัพท์ที่ไม่เข้าใจจะเดาคำศัพท์คำนั้น จาก affixes คือ
เดาจาก prefixes และ suffixes เช่น
คำว่า establishments ดิฉันรู้ว่า establish แปลว่า สร้าง และคิดว่า establishment น่าจะเกี่ยวกับการสร้างอะไรซักอย่าง
จากนั้นลองเอาประโยคทั้งหมดที่ได้แปลไปเปรียบเทียบกับประโยคทั้งหมดที่ได้แปลไว้เรียบร้อยในบทความ
พบว่าดิฉัน สามารถเข้าใจเนื้อหาโดยรวมได้ แต่ยังมีบางประโยคที่ไม่สามารถแปลได้
เนื่องจากไม่รู้คำศัพท์และไม่สามารถเดาได้
เพราะคำศัพท์ที่พบบางคำไม่ได้แปลออกมาแล้วเป็นความหมายที่แท้จริง
เพราะคำศัพท์คำนั้นต้องแปลคู่กับคำศัพท์ที่ตามมา นั่นคือ เป็นสำนวนนั่นเอง เช่น
คำว่า all walk of life. แปลว่า ทุกสาขา, ทุกอาชีพ,ทุกชนชั้น เป็นต้น และพบว่าคำศัพท์บางคำมีหลายความหมาย
ซึ่งจะแปลตรงตัวไม่ได้ ต้องแปลให้สอดคล้องกับบริบทนั่นเอง เช่น ในประโยคที่ว่า In
Bangkok, major establishments such as leading hotels and amusement parks organize
their Loy Krathong Festival and the Krathong contest as major annual function. คำว่า leading
ในที่นี้แปลว่า ชั้นนำ เป็นคำคุณศัพท์ ทำหน้าที่ขยายคำนาม คือคำว่า hotel
ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ดิฉันลองแปลดูนั้น ดิฉันคิดว่า leading แปลว่า เป็นหัวหน้า ทำให้รู้ว่า การอ่านมีความสำคัญและต้องใช้ความรู้หลายด้านมาก
ทั้งด้านคำศัพท์ ไวยากรณ์ เทคนิคต่างๆในการเดาคำศัพท์ เป็นต้น ซึ่งในบทความนี้
พูดถึง วันลอยกระทง เป็นเทศกาลที่นิยมกันมากที่สุดเทศกาลหนึ่งในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
มีขึ้นในช่วงที่อากาศโปร่งใสสบายและสิ้นสุดฤดูฝนแล้ว ประชาชนทุกคนจะนำกระทงมาลอยเพื่อขอบคุณพระแม่คงคาและอธิฐานให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ
นำสิ่งชั่วร้ายออกไป มีการประกวดนางนพมาศ
ในกรุงเทพจะมีการจัดที่โรงแรมชั้นนำและสวนสนุกมีการประกวดกระทงด้วย
สำหรับคนที่มาเยือนประเทศไทยไม่ควรพลาด มีจัดไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยว ทุกคนสามารถร่วมสนุกได้
เมื่อวันที่ 17 กันยายน
พ.ศ.2558 ถึงวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากเรียงความภาษาอังกฤษ
ชื่อว่า Vacation at the Beach or in the Mountains จาก http://haonly.weebly.com/8/ post/2011/11/post-title-click-and-type-to-edit1.html เหตุผลที่เลือกฝึกเขียนเรื่องนี้
เนื่องด้วยดิฉันมีความสนใจ เพราะเกี่ยวกับเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว
ในการฝึกครั้งนี้ ดิฉันได้อ่านบทความแบบ skimming ก่อน
เพื่อต้องการทราบเนื้อหาโดยรวม ผู้เขียนพูดเกี่ยวกับอะไร เป็นอย่างไร
เมื่ออ่านเสร็จ จากนั้นลองหัดแปลบทอ่านนี้ พบว่า การอ่านพัฒนาขึ้น
ดิฉันได้อ่านออกเสียงดัง แต่มีคำศัพท์บางคำดิฉันอ่านออกเสียงไม่ถูกต้อง
ไม่รู้ว่าต้องเน้นเสียงตำแหน่งไหน
ดิฉันจึงเปิดดิกชันนารีออนไลน์เพื่อดูว่าคำศัพท์คำนั้นออกเสียงอย่างไร จากนั้นดิฉันได้ฝึกออกเสียงคำศัพท์คำนั้นซ้ำๆ
ซึ่งบทอ่านนี้ พูดเกี่ยวกับการพักผ่อนที่ทะเลกับภูเขา
เป็นการเปรียบเทียบให้ผู้อ่านดูว่า ที่ไหนที่เหมาะกับการพักผ่อนสำหรับผู้อ่าน
ทั้งสองสถานที่มีความแตกต่างกัน ผู้เขียนได้พูดคุยใน 3
ประเด็นคือ สภาพอากาศ ประเภทของกิจกรรม และสถานที่ตั้งที่น่าสนใจไปเที่ยว
ผู้เขียนพูดถึงภูเขาในประเด็นแรก พูดถึงสภาพอากาศก่อน
สภาพอากาศมีความสำคัญในการจัดลำดับกิจกรรมในการพักผ่อน
ถ้าคนที่ไม่ชอบอากาศหนาวเย็น ก็จะเป็นอุปสรรค์สำหรับพวกเขาในการขึ้นเขา
ทั้งนี้สภาพอากาศและอุณภูมิเป็นตัวกำหนดกิจกรรมที่แน่นอน เช่น การเล่นสโนบอร์ด
ปีนเขา เดินป่า ไต่เขา การเล่นสกี เมื่อพูดถึงการขึ้นเขา
ภูมิภาคต่างๆมีภูเขาสวยงามและน่าสนใจมากมายให้เราเลือกไปที่นั่น หนึ่งในนั้น
ประเทศแคนาดานั้นมีภูเขามากมายที่เหมาะแก่การพักผ่อนและมีความสนุกสนาน ต่อมา
ในประเด็นที่สอง ผู้เขียนได้พูดถึงทะเล ได้พูดในสามประเด็นเหมือนกัน คือ สภาพอากาศ
ประเภทของกิจกรรม และสถานที่ตั้ง ในการไปเที่ยวทะเลสภาพอากาศที่อบอุ่น คือ
ไม่ร้อนและไม่หนาวเย็นเกินไปนั้นมีความสำคัญมาก
อุณภูมิและสภาพอากาศที่อบอุ่นเป็นตัวกำหนดกิจกรรมที่แน่นอน เช่น สามารถว่ายน้ำได้
เล่นวอลเลย์บอล เล่นฟุตบอล ขี่จักรยานในน้ำ
ที่ชายฝั่งทะเลมีสถานที่บันเทิงและร้านอาหารมากมาย เราสามารถเต้นและจัดงานเลี้ยงได้ตลอดทั้งคืน
ประเทศเม็กซิโกมีทะเลที่สวยงาม นั่นคือ Acapulco และ Cancun
ทะเลทั้งสองแห่งนี้มีชื่อเสียงและมีความสวยงามที่สุดในโลก ไม่ว่าจะขึ้นเขาหรือไปทะเลก็มีความสนุกสนานเช่นเดียวกัน
ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ฉันชอบทะเลมากกว่าขึ้นเขา
แต่บางครั้งมันเป็นสิ่งที่ดีถ้าเราเสี่ยงและเลือกสถานที่อื่นๆบ้างเพื่อความสนุกสนาน
ในวันที่
20 กันยายน พ.ศ. 2558 ถึงวันที่ 21
กันยายน พ.ศ. 2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่าน
จาก http://www.kaweeclub.com/thailand-food/(kaeng-khiao-wan-kai)-chicken-green-curry/
เกี่ยวกับวิธีทำแกงเขียวหวาน เหตุผลที่เลือกอ่านเรื่องนี้
เพราะอยากรู้วิธีทำแกงเขียวหวานและอยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษ อยากฝึกอ่านและฝึกพูดภาษาอังกฤษ
อยากรู้ว่าคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการทำแกงเขียวหวานมีคำศัพท์อะไรบ้าง
ในการฝึกครั้งนี้ ดิฉันได้อ่านบทอ่านนี้ 1รอบ จากนั้น
แปลบทอ่านว่าพูดเกี่ยวกับอะไร แต่ละประโยคแปลว่าอย่างไร พบว่าในบทอ่านมีการอ่านเลขเศษส่วน
ซึ่งดิฉันไม่แน่ใจว่าดิฉันอ่านถูกต้องหรือไม่ ดิฉันจึงไปค้นคว้า พบว่า
การอ่านเลขเศษส่วนในภาษาอังกฤษนั้น เศษจะอ่านเป็นเลขธรรมดา
ส่วนส่วนจะอ่านเป็นเลขลำดับ ถ้าส่วนมากกว่าเศษ จะต้องอ่านส่วนแบบพหู่พจน์ คือ ใส่ s
ท้ายส่วนด้วยเพื่อแสดงความเป็นพหู่พจน์ เช่น 1/3 อ่านว่า one third (one หรือ หนึ่ง อยู่ข้างบน ส่วน
สามอยู่ข้างล่าง ต้องอ่านเป็นเลขลำดับ หรือ third) 1/7 อ่านว่า
one seventh 1/10 อ่านว่า
one tenth และ 3/5
อ่านว่า three fifths ,2/3 อ่านว่า two
thirds นอกจากนี้ ยังได้รู้จักคำศัพท์ที่ไม่รู้และอ่านไม่ถูกต้อง
เช่น คำว่า kaffir lime leaves แปลว่า ใบมะกรูด , chilli
paste แปลว่า เครื่องแกง เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ฝึกออกเสียงสูง ต่ำ
( intonation) บทอ่านที่อ่านจะเป็นประโยคบอกเล่า
ดังนั้นจะออกเสียงต่ำตอนท้าย เพราะการออกเสียงสูงตอนท้ายนั้นเมื่อเป็นประโยคคำถาม ทำให้ดิฉันสามารถอ่านออกเสียงสูง
ต่ำได้ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านี้ ทำให้มีความมั่นใจในการอ่านมากขึ้น
เพราะเมื่อรู้ว่าการอ่านเศษส่วนภาษาอังกฤษอ่านอย่างไร อ่านออกเสียงสูง ต่ำ (intonation)
เมื่อใด และคำศัพท์แต่ละคำที่อ่านไม่ถูกต้องและฝึกอ่านแก้ไขจนถูกต้อง ในบทอ่านนี้พูดถึงสองส่วนคือ เครื่องปรุง
และวิธีทำ เครื่องปรุง ได้แก่ เนื้อไก่ 300 กรัม,น้ำพริกแกงเขียวหวาน
3 ช้อนโต๊ะ,มะเขือพวง 1/2 ถ้วย,หัวกระทิ
1 ถ้วย,หางกะทิ 1/2 ถ้วย,ใบโหระพา 1/4
ถ้วย,ใบมะกรูด 2 ใบ,น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ,น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ,น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ,พริกชี้ฟ้าแดงซอย 1 เม็ด และวิธีทำ มีดังนี้ หั่นเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ ตามยาวใส่เกลือ 1/2
ใส่กระทะรวนให้แห้ง, ผัดน้ำพริกแกงเขียวหวานกับน้ำมันให้หอม
ตักหัวกระทิใส่ ใช้ไฟอ่อน ผัดให้แตกมันเล็กน้อย และใส่เนื้อไก่ลงผัดฉีกใบมะกรูดใส่แล้วตักใส่หม้อเติมน้ำกะทิที่เหลือ
ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล พอเดือด ใส่มะเขือพวง สุกแล้วใส่ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดง
แล้วยกลง
การอ่านเป็นทักษะสำคัญในการเรียนภาษา
การอ่านเป็นกระบวนการที่ต้องฝึกฝนอย่างเป็นระบบ
เพราะการอ่านเป็นทักษะที่สามารถฝึกได้
การฝึกมากทำให้มีความสามารถในการอ่านเพิ่มมากขึ้นตามระดับการอ่าน
การอ่านเป็นทักษะสำคัญที่นำผู้อ่านไปสู่โลกกว้าง ช่วยให้ผู้อ่านมีความรู้
ข้อมูลข่าวสารและงานสร้างสรรค์ ในการอ่านภาษาอังกฤษก็เช่นเดียวกัน
เพราะในปัจจุบันนี้ภาษาอังกฤษเข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตของเรา
จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราจะไม่อ่านภาษาอังกฤษ
เพระการอ่านจะนำเราไปสู่ทักษะอื่นๆต่อไปได้ เพระทุกทักษะมีความเชี่ยมโยงกัน
ถ้าเราไม่มีความสามารถในการอ่าน เราไม่สามารฟัง พูด เขียน หรือแปลได้ ดังนั้น
ดิฉันจึงฝึกฝนทักษะการอ่าน เริ่มตั้งแต่ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน
พ.ศ.2558 ถึงวันที่ 21 กันยายน พ.ศ.2558 จากการที่ได้ฝึกทักษะการอ่าน
จากบทอ่านเรื่อง Loy Krathong Festival , เรียงความเรื่องVacation
at the Beach or in the Mountains และบทอ่านเกี่ยวกับวิธีทำแกงเขียวหวาน
พบว่า ทักษะการอ่านของดิฉันพัฒนามากขึ้น
สามารถอ่านและแปลความหมายโดยรวมได้ สามารถเดาความหมายจากบริบท รากศัพท์ และ affixes
สามารถเน้นเสียง (stress)ถูกต้อง
สามารถอ่านออกเสียงสูง ต่ำได้ (intonation) รู้จักสำนวน
และคำศัพท์ต่างๆที่ไม่รู้มาก่อน สามารถอ่านเศษส่วนเป็นภาษาอังกฤษได้ และดิฉันคิดว่าการอ่านในครั้งนี้
ทำให้ดิฉันได้รับความรู้และมีประโยชน์อย่างมาก และจะพัฒนาทักษะการอ่านต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น