วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

Learning Log (นอกห้องเรียน) ฝึกทักษะการเขียน 8th September, 2015


Learning   Log   (นอกห้องเรียน)
ฝึกทักษะการเขียน
              8th September, 2015

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันได้ฝึกทักษะการเขียน โดยเขียนเรียงความจากเรื่องใกล้ตัว ในหัวข้อ  My mom , My classmates, What a Surprising Birthday Party และ My family พบว่า ดิฉันต้องปรับปรุงการเขียนของดิฉัน ซึ่งในสัปดาห์นี้ ดิฉันฝึกทักษะการเขียน เพื่อให้การเขียนของดิฉันพัฒนามากยิ่งขึ้น โดยในการฝึกครั้งนี้เป็นการฝึกเขียนการบรรยายประสบการณ์และการบรรยายจินตนาการและความคิด ดิฉันได้เลือกหัวข้อในการเขียน คือ The Field Trip, Going shopping in the Hypermarket, และหัวข้อต่อมาที่เลือกเขียนคือ  If I Were a Bird โดยฝึกตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน พ.. 2558 ถึง วันที่ 14 กันยายน พ.. 2558 ดิฉันหวังว่าการฝึกเขียนในครั้งนี้สามารถเขียนได้ดีกว่าครั้งที่ผ่านมา เพื่อดิฉันสามารถเขียนเรียงความได้ดี และนำไปสู่ทักษะอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันที่ 8 กันยายน พ.. 2558  ถึงวันที่ 9 กันยายน พ .. 2558 ดิฉันได้ฝึกเขียนเรียงความเรื่อง The Field Trip ซึ่งไปทัศนศึกษาที่จังหวัดกระบี่ ดิฉันได้เขียนเค้าโครง (outline) เหตุผลที่เลือกเขียนเรื่องเรื่อง The Field Trip เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวและดิฉันสามารถเขียนบรรยายออกมาได้ดี   ในการเขียน introduction เป็นการเขียนสถานที่และสภาพจิตใจก่อนไปทัศนศึกษา ส่วน body กำหนดการและจุดชมวิว และconclusion  ความรู้สึกที่ได้รับตอนกลับจากทัศนศึกษา เมื่อเขียนเค้าโครงเสร็จ จากนั้น คิดประโยคต่างๆที่สามารถนำมาใช้ในการเขียนครั้งนี้ เช่น วันนี้ฉันไปทัศนศึกษาที่จังหวัดกระบี่ ( Today, I went to Krabi for a field trip.), ฉันตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับ ( I was so excited and  couldn’t fall asleep.), เราวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้วว่าบนรถบัสเราจะทำอะไรกัน ( We made a plan about what we are going to do on the tourist coach.),ฉันฝันว่า ฉันไปทัศนศึกษาไม่ทัน ( I even dreamed  that  I was  late for the field trip.), ต่อมา เราเดินเล่นที่ถนนสายเก่าและกินขนมไปมากมาย ( And then , we just walked along the old street and ate a lot of snacks.), ฉันได้กลิ่นไอน้ำทะเลแล้ว ( I could  smell  seawater in the air.),  ฉันถ่ายรูปทะเลไว้มากมาย และเล่นกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนอยู่แถวๆนั้น ( I took many pictures of the sea and played around the place with  my classmates.), เรานั่งเรือข้ามฟากไปยังท่าเรือชาวประมง ( We went  to Fisherman’s  Wharf by ferry.),เราซื้อโปสต์การ์ดและของเล่นเด็กมากมายจากร้านค้าเก่าร้านนั้น ( We bought a lot of postcards and small toys in  the old store.), ตอนอยู่บนรถทุกคนเหนื่อยมาก ฉันผล็อยหลับไปและฝันเรื่องการทัศนศึกษาแลสนสนุกครั้งนี้  ( We all felt tired on the bus and I fell asleep and  dreamed  about  the  excellent field trip.), ครั้งหน้า ฉันอยากกลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้งกับคุณพ่อคุณแม่ของฉัน ( Next time, I would like to come back with  my parents.), ฉันหวังว่าน้องชายจะชอบของขวัญของฉัน( I hoped my little brother would  like my gift.), นี่คือความทรงจำที่ดีของฉัน ( It was a nice memory for me.) เป็นต้น จากนั้นฉันได้ลงมือเขียน เมื่อดิฉันเริ่มลงมือเขียน ทำให้ดิฉันพบว่าการเขียนในครั้งนี้ดีกว่าการเขียนในครั้งก่อนๆ
วันที่ 10 กันยายน พ.. 2558  ถึงวันที่ 11 กันยายน พ .. 2558 ดิฉันได้ฝึกเขียนเรียงความเรื่อง Going shopping in the Hypermarket ดิฉันได้เขียนเค้าโครง (outline) เหตุผลที่เลือกเขียนเรื่องGoing shopping in the Hypermarket เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความทรงจำของดิฉันในวัยเด็กที่ดิฉันต้องไปซื้ออาหารเย็นกินเองเนื่องจากคุณแม่คุณแม่กลับบ้านดึก   ในการเขียน introduction เป็นการเขียนเหตุการณ์ที่ไปซื้อกับข้าวและเหตุการณ์ระหว่างทาง ส่วน body ประอบด้วย 2 body body ที่ บรรยายห้างค้าปลีก ส่วน body ที่ 2 ซื้อและทำอะไรที่นั่นบ้าง และconclusion  บอกสิ่งที่ทำและความรู้สึก เมื่อเขียนเค้าโครงเสร็จ จากนั้น คิดประโยคต่างๆที่สามารถนำมาใช้ในการเขียนครั้งนี้   ประโยคที่ใช้เขียนใน introduction  เช่น วันนี้คุณพ่อคุณแม่จะกลับบ้านดึก ฉันจึงต้องซื้ออาหารเย็นกินเอง (My parents are coming home late tonight so I have to buy something for dinner.),ฉันได้เห็นผู้คนมากมายถือถุงหรือตะกร้าระหว่างทางไปห้างค้าปลีก (I could see many people carrying bags or baskets  on the way to the hypeement.)ประโยคที่ใช้เขียนใน body ที่ เช่น และ body ที่ 2 ขณะนั้นเวลา 1 ทุ่มแล้ว ฉันได้เห็นผู้คนหลากหลายประเภทที่นั่น ( It was about seven o’ clock so I could see many kinds of people there.), พวกเขาเป็นพนักงาน แม่บ้าน นักเรียน หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ( There were workers, housewives, students and even some police officers.), บางคนมาดูเสื้อผ้า บางคนมาดูเฟอร์นิเจอร์ และบางคนก็มาชิมอาหารตัวอย่าง ( Some of them were looking for furniture and still others were trying samples.),เราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าจะเดินจนครบ ( It look about 1 hours for us to walk around there.)  เช่น เป็นต้น จากนั้นฉันได้ลงมือเขียน เมื่อดิฉันเริ่มลงมือเขียน ทำให้ดิฉันพบว่าการเขียนในครั้งนี้ดีกว่าการเขียนในครั้งก่อนๆ
วันที่ 12 กันยายน พ.. 2558 ถึงวันที่ 14 กันยายน พ.. 2558   เรื่อง If I Were Bird.  เป็นการฝึกเขียนบรรยายความฝันจากจินตนาการ ดิฉันเคยคิดว่าดิฉันอยากแปลงร่างเป็นนก เพราะนกโบยบินได้อย่างอิสรเสรีบนท้องฟ้า  ในวันที่ 12 กันยายน พ..2558 ดิฉันได้เขียน outline ใน introduction เขียนว่า ถ้าฉันแปลงร่างเป็นนกแล้ว อยากทำอะไร เหตุผลที่อยากทำเพราะอะไร ส่วน body บรรยายความเป็นไปได้อย่างอื่น และ conclusion บรรยายจินตนาการที่เหลือเชื่อ พร้อมบอกเหตุผล ต่อมาในวันที่ 13 กันยายน พ..2558 ดิฉันได้คิดเกี่ยวกับประโยคต่างๆที่ใช้ในการเขียนครั้งนี้ ย่อหน้าที่ 1 เช่น ถ้าฉันเป็นนก ฉันจะโบยบินบนท้องฟ้า เพราะฉันฝันอยากโบยบินมาตลอด (If I were a bird, I would fly in the sky because I always dream about flying in  the sky.),ฉันจะบินขึ้นสูงๆ แล้วมองลงมายังเมืองที่ฉันอาศัยอยู่ มันต้องสวยมากแน่ๆ (I would fly up high and  view the city I live in  and  it must be awesome.) ย่อหน้าที่ 2 เช่น ถ้าฉันเป็นนกฉันจะอาศัยอยู่บนต้นไม้ (If I were a bird, I would live in a tree.),ตอนฉันยังเด็กฉันสงสัยเสมอว่า พวกนกทำอะไรกันอยู่บนต้นไม้ (When I was a kid, I usually wondered what the birds do in a tree.) และย่อหน้าที่ 3 เช่น ถ้าฉันเป็นนก ฉันจะบินไปหาคุณปู่ คุณย่าบนสวรรค์ เพราะฉันคิดถึง พวกท่านเหลือเกิน (If I were a bird, I would like to fly to heaven to see my grandparents because  I miss so much.),ฉันฝันว่าฉันอยากจะบินขึ้นไปบนดวงจันทร์อยู่เสมอ (I always dream about  flying to the  moon.)รูปประโยคเรียงความนี้เป็นการสมมติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เรียกว่า ประโยคสมมุติตรงข้ามกับความจริงในปัจจุบัน และในวันที่ 14 กันยายน พ.. 2558 ดิฉันได้เริ่มลงมือเขียน พบว่า การเขียนครั้งนี้มีความสนุก และไม่น่าเบื่อ ไม่ยากอย่างที่คิดถ้าเราศึกษาและทำความเข้าใจให้ดี
จากการเขียนของดิฉัน ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน พ.. 2558 ถึงวันที่ 14 กันยายน พ..2558  ซึ่งการเขียนครั้งนี้เขียนการบรรยายประสบการณ์และการบรรยายจินตนาการและความคิด  พบว่าการเขียนในสัปดาห์นี้ดีกว่าการเขียนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการเขียนครั้งนี้เขียนทั้งหมดสามเรื่อง คือ The Field Trip, Going shopping in the Hypermarket และ If I Were a Bird. ทำให้ดิฉันมีความรู้มากขึ้น สามารถเขียนเรียงความได้ดีขึ้น  รู้จักคำศัพท์ วลี และประโยคต่างๆมากมาย ทำให้รู้ถึงหลักการเขียนเรียงความ ต้องประกอบด้วย  introduction, body และ conclusion แต่ละส่วนต้องมีความสัมพันธ์กันและมีความเป็นหนึ่งเดียว เมื่อเขียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว เนื้อหาหรือรายละเอียดของเรื่องต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จากการฝึกเขียนครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ  สามารถนำไปประยุกต์กับการเขียนเรียงความในเรื่องอื่นๆได้







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น